วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚

๏ มัสมั่นแกงแก้วตา
หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง
แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด ว
างจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา
ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม
เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน
ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
๏ หมูแนมแหลมเลิศรส
พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง
ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น
วางถึงลิ้นดิ้นแด
โดยรสทิพย์หยิบมาโปรย
ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง
เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน
ของสวรรค์เสวยรมย์
๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า
ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม
ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ
รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เ
ช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม
แกงคั่วส้มใส่ระกำ ร
อยแจ้งแห่งความขำ
ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด
ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม
สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง
นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล
ยลอยากนิทรคิดแนบนอน
๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า
รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์
ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
๏ รังนกนึ่งน่าซด
โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง
เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
๏ ไตปลาเสแสร้งว่า
ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ
ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง
เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน
ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚

• เห่ชมผลไม้
๏ ผลชิดแช่อิ่มโอ้ เอมใจ
หอมชื่นกลืนหวานใน อกชู้
รื่นรื่นรสรมย์ใด ฤๅดุจ นี้แม
หวานเลิศเหลือรู้รู้ แต่เนื้อนงพาล ๚

๏ ผลชิดแช่อิ่มอบ
หอมตรลบล้ำเหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปาน
หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ
๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริง
รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
คิดความยามพิสมัย
หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น
๏ ผลจากเจ้าลอยแก้ว
บอกความแล้วจากจำเป็น
จากช้ำน้ำตากระเด็น
ป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
๏ หมากปรางนางปอกแล้ว
ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรง
ปรางอิ่มอาบซาบนาสา
๏ หวนห่วงม่วงหมอนทอง
อีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทรา
อุราแนบแอบอกอร
๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น
เรียกส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวิลลิ้นลมงอน
ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน
๏ พลับจีนจักด้วยมีด
ทำประณีตน้ำตาลกวน
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน
ลยิ่งพลับยับยับพรรณ
๏ น้อยหน่านำเมล็ดออก
ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์
มือใครไหนจักทัน
เทียบเทียมที่ฝีมือนาง
๏ ผลเกดพิเศษสด
โอชารสล้ำเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบาง
สางเกศเส้นขนเม่นสอย
๏ ทับทิมพริ้มตาตรู
ส่จานดูดุจเม็ดพลอย
สุกแสงแดงจักย้อย
อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย
๏ ทุเรียนเจียนตองปู
เนื้อดีดูเหลือเรืองพราย
เหมือนศรีฉวีกาย
สายสวาทพี่ที่คู่คิด
๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอม
ผลงอมงอมรสหวานสนิท
กลืนพลางทางเพ่งพิศ
คิดยามสารทยาตรามา
๏ ผลเงาะไม่งามแงะ
มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
หวนเห็นเช่นรจนา
จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม
๏ สละสำแลงผล
คิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม
นามสละมละเมตตา ๚



• เห่ชมเครื่องหวาน
๏ สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม
เป็นนัยนำวาที สมรแม่ มาแม
แถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพียบแอ้อกอร ๚

๏ สังขยาหน้าตั้งไข่
ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง
แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ
แทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือ
ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
๏ ลำเจียกชื่อขนม
นึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย
โหยไห้หาบุหงางาม
๏ มัศกอดกอดอย่างไร
น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ
ขนมนามนี้ยังแคลง
๏ ลุดตี่นี้น่าชม
แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกง
แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ
งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกราย
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน
๏ รสรักยักลำนำ
ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียน
เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัด
สามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดม
ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน
เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกล
เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
๏ รังไรโรงด้วยแป้ง
เหมือนนกแกล้วทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวง
ยังยินดีด้วยมีรัง
๏ ทองหยอดทอดสนิท
ทองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบัง
แต่ลำพังสองต่อสอง
๏ งามจริงจ่ามงกุฏ
ใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
เรียมร่ำคำนึงปอง
สะอิ้งน้องนั้นเคยยล
๏ บัวลอยเล่ห์บัวงาม
คิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคล
สถนนุชดุจประทุม
๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส
หอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไลคลุม
หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
๏ ฝอยทองเป็นยองใย
เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามเยาวมาลย์
เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ๚

จากหนังสือ : ประชุมกาพย์เห่เรือ กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร